Accessibility Tools

กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์
Information and Public Relations Division

กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์
image

กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์

ฎีกา InTrend ep.75 ส่งสัญญากู้ยืมไปทางอีเมลถือเป็นหลักฐานเป็นหนังสือใช้ฟ้องร้องได้หรือไม่image

ช่องทางอื่นๆ

Soundcloud >> https://soundcloud.com/cojpodcast
Spotify >> https://open.spotify.com/show/043Kat8AR01BDbVRkfg2MK?si=bd2fc097ff8c4d6c
Google Podcast >> https://podcasts.google.com/feed/aHR0cHM6Ly9mZWVkcy5zb3VuZGNsb3VkLmNvbS91c2Vycy9zb3VuZGNsb3VkOnVzZXJzOjgzOTA5NzU3Ny9zb3VuZHMucnNz
Apple Podcast >> https://podcasts.apple.com/us/podcast/coj-podcast/id1522616583

ฎีกา InTrend – ส่งสัญญากู้ยืมไปทางอีเมลถือเป็นหลักฐานเป็นหนังสือใช้ฟ้องร้องได้หรือไม่

สรวิศ ลิมปรังษี

         

          การทำสัญญากู้ยืมตามกฎหมายกำหนดให้ต้องทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้ยืมจึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้หากจำนวนเงินที่กู้ยืมกันนั้นเกินสองพันบาท แต่ในปัจจุบันการติดต่อสื่อสารมีการใช้ช่องทางต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและทำให้การติดต่อระหว่างกันทำได้ง่ายขึ้น กรณีที่จะกล่าวถึงในตอนนี้จะเป็นปัญหากรณีที่มีการกู้ยืมเงินกันโดยทำเป็นสัญญาแล้วส่งให้ผู้ให้กู้ทางอีเมลจะถือว่าเป็นหลักฐานเป็นหนังสือที่ใช้ฟ้องร้องบังคับคดีได้หรือไม่

          นายมีนาต้องการใช้เงินเป็นค่าเล่าเรียนของลูก แต่เนื่องจากค่าเล่าเรียนหลักสูตรที่ลูกของนายมีนาเรียนอยู่มีจำนวนสูงถึง 300,000 บาท แต่ในขณะนั้นนายมีนาไม่มีเงินสดอยู่เพราะธุรกิจขาดสภาพคล่อง นายมีนาจึงไปติดต่อนายเมษาเพื่อขอยืมเงินจากนายเมษา

          นายเมษาเห็นว่านายมีนาเดือดร้อนจึงได้ตกลงให้นายมีนายืมเงิน นายมีนาจึงส่งคนไปรับเงินสดมาจากนายเมษา หลังจากนั้นนายเมษาก็ส่งสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 300,000 บาทไปให้นายมีนาทางอีเมล เมื่อนายมีนาได้รับแล้วก็พิมพ์สัญญาดังกล่าวออกแล้วลงลายมือชื่อของตนก่อนจะสแกนแล้วส่งกลับไปทางอีเมลให้นายเมษา

          เมื่อครบกำหนดตามสัญญาแล้ว นายมีนาไม่ได้ชำระเงินกู้คืนให้แก่นายเมษา นายเมษาจึงฟ้องนายมีนาให้ชำระเงินกู้คืน

          นายมีนาโต้แย้งว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินกู้ที่นายเมษาให้ในการทำโครงการหนึ่งร่วมกันที่นำมาเป็นค่าใช้จ่ายก่อน เมื่อได้ผลตอบแทนแล้วก็จะหักกลบกัน นายมีนาไม่มีหนี้ค้างชำระใด ๆ

          ปัญหาในกรณีนี้ในส่วนของการกู้ยืมกันนั้นปรากฏว่าไม่มีข้อเท็จจริงอื่นใดมาสนับสนุนให้เห็นตามที่นายมีนาอ้างว่ามีการทำโครงการร่วมกันจริง ทั้ง ๆ ที่เป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวนมาก ทำให้เห็นว่าน่าจะเป็นการกู้ยืมกันตามที่นายเมษาอ้างมาจริง

          แต่ปัญหาที่น่าสนใจอีกประการสำหรับกรณีนี้คือหลักฐานเป็นหนังสือของสัญญากู้ยืมเงินที่มีการนำมาฟ้องร้องเป็นคดีนี้ เพราะตามที่กล่าวข้างต้นแล้วว่าหากเป็นการกู้ยืมเงินกันเกินกว่าสองพันบาทต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ไม่เช่นนั้นจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้

          ตามปกติของการทำหลักฐานเป็นหนังสือต้องทำกันเป็นกระดาษและให้ผู้ที่เป็นลูกหนี้ลงลายมือชื่อในกระดาษสัญญากู้หรือที่เป็นหลักฐานของสัญญากู้นั้น แต่ในกรณีนี้จะเห็นได้ว่าตอนที่นายมีนาพิมพ์ตัวสัญญาออกจากที่ได้รับทางอีเมลหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แล้วลงลายมือชื่อในสัญญาที่พิมพ์ออกมาเป็นกระดาษก่อนจะสแกนสัญญาที่ลงลายมือชื่อแล้วส่งไฟล์กลับไปให้นายเมษา ต้นฉบับสัญญาที่มีลายมือชื่อของนายมีนาอยู่จริง ๆจะยังคงอยู่กับนายมีนา สิ่งที่นายเมษาได้รับไปจริง ๆ แล้วคือภาพสแกนตัวสัญญาที่มีการลงลายชื่อเท่านั้น เอกสารที่นำส่งในคดีจึงเป็นเพียงสิ่งที่พิมพ์ออกจากไฟล์ภาพสแกนที่ได้รับเท่านั้น

          แต่กรณีนี้อาจถือว่าภาพสแกนสัญญากู้ยืมที่นายมีนาลงลายมือชื่อไว้เป็น “ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” ลักษณะหนึ่งตามพระราชบัญญัติธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ซึ่งในมาตรา 8 ของกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดไว้แล้วว่ากรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องทำเป็นหนังสือหรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือมาแสดง หากได้มีการทำในรูปของ “ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์” ที่สามารถเข้าถึงและนำกลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง ให้ถือว่าได้มีการทำเป็นหนังสือหรือหลักฐานเป็นหนังสือตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว

ทำให้ในกรณีนี้แม้ตัวสัญญากู้ยืมที่เป็นกระดาษที่นายมีนาลงลายมือชื่อไว้จริง ๆ จะยังคงอยู่กับนายมีนา แต่ภาพสแกนเอกสารดังกล่าวก็ถือเป็นหลักฐานเป็นหนังสือที่ใช้ฟ้องร้องบังคับคดีได้แล้ว เพราะข้อมูลดังกล่าวที่อยู่ในลักษณะภาพสแกนย่อมสามารถนำกลับมาใช้ยืนยันความีอยู่ของสัญญาได้โดยไม่ทำให้เนื้อความของข้อมูลดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไป

          กรณีนี้คงพอสรุปได้ว่ากรณีที่มีการทำสัญญากู้ยืมและลงลายมือชื่อผู้กู้ไว้ในกระดาษ หากมีการส่งภาพสัญญาดังกล่าวทางอีเมลให้แก่ผู้ให้กู้ก็ถือได้ว่ามีการทำหลักฐานเป็นหนังสือที่อาจนำมาฟ้องร้องบังคับคดีกันได้แล้ว

 

(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3335/2563)

 

_____________________

ฎีกา InTrend ep.75 ส่งสัญญากู้ยืมไปทางอีเมลถือเป็นหลักฐานเป็นหนังสือใช้ฟ้องร้องได้หรือไม่

The Host : กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรม

Guest Host :  สรวิศ  ลิมปรังษี

ที่ปรึกษา :  สรวิศ  ลิมปรังษี, อรวรานันท์  ธนาพันธ์วรากุล
 
Show Creator : นันทวัลย์  นุชนนทรี, ศณิฏา  จารุภุมมิก
Episode Producer & Editor  : ศณิฏา  จารุภุมมิก, ปนัสยา ชื่นอุระ
Sound Designer & Engineer : กฤตภาส  ทองแจ้ง, กิติชัย โล่สุวรรณ
Coordinator & Admin : สุภาวัชร์  ดลมินทร์, โสรัตน์  ไวศยดำรง
Art Director  : สุภาวัชร์  ดลมินทร์, ปันจารีณ์ สุวรรณโภชน์ ทศพร  ศิลาบำเพ็ญ
Webmaster  : ผุสชา  เรืองกูล, วชิระ  โรจน์สุธีวัฒน์

 


image รูปภาพ
image

image เอกสารแนบ