วันนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2568) เมื่อเวลา 18.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี
ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา
อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา

โดย นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา นายชิโนรส ยงเกียรติกานต์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะ
ในศาลอุทธรณ์ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๙ นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงาน
ศาลยุติธรรม นางชมภู่ ใจเงินสุทธิ์ มากมณี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงสงขลา พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายตุลาการ
ศาลยุติธรรม ข้าราชการในพื้นที่ และเหล่าพสกนิกร เฝ้ารับเสด็จ ฯ  

เมื่อเสด็จเข้าพลับพลาพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชา
พระพุทธนวราชบพิตร เสร็จแล้วทรงประทับพระราชอาสน์ ทรงศีล 

ในการนี้ นางชมภู่ ใจเงินสุทธิ์ มากมณี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงสงขลา และนายนารถ เศรษฐพูธ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงสงขลา เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือที่ระลึกแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี

จากนั้น นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา กราบบังคมทูลรายงาน พร้อมทั้ง
กราบบังคมทูลเชิญเสด็จ ฯ ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และทรงเปิดอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังมณฑลพิธีวางศิลาฤกษ์
ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นอิฐ ทอง นาก เงิน แผ่นศิลาฤกษ์แล้วทรงวางลงในหลุม เสด็จ ฯ ไปยังแท่นพิธีทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา

ครั้นเสร็จสิ้นพิธี นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ได้เบิกผู้มีอุปการคุณ
แก่ศาลแขวงสงขลา 120 ราย เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานของที่ระลึก และนายชิโนรส
ยงเกียรติกานต์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลอุทธรณ์ ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๙ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล
ตามพระราชอัธยาศัย จากนั้นนายนารถ เศรษฐพูธ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงสงขลา
เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายแผ่นศิลาเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธย เสร็จแล้ว
ทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการ ทรงลาพระสงฆ์ แล้วเสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังอาคารที่ทำการ
ศาลแขวงสงขลา ห้องประทับรับรองชั้น 2 ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย
ในสมุดที่ระลึก จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้า ฯ
พระบรมราชินี และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ศาลยุติธรรม ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลแขวงสงขลา เมื่อเสร็จสิ้นพิธี
ทรงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จ ฯ ออกจากอาคารที่ทำการศาลแขวงสงขลา

ทั้งนี้ “ศาลแขวงสงขลา” อาคารที่ทำการแห่งแรก เดิมเป็นอาคารที่ทำการของศาลจังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บนถนนปละท่า ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา อาคารดังกล่าวมีที่มาจากปัญหาของที่ทำการศาลจังหวัดสงขลาเก่า บริเวณศาลาว่าการมณฑลนครศรีธรรมราช ซึ่งชำรุดทรุดโทรม
และคับแคบ หลวงจำรูญเนติศาสตร์ (จำรูญ โปษยานนท์) ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งข้าหลวงยุติธรรม ภาคใต้ เป็นผู้เลือกที่ดินทางทิศตะวันออกของวัดสระเกษ ขนาดเนื้อที่ประมาณ ๑๐ ไร่ เป็นที่สร้าง
ศาลแห่งใหม่ เริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน ๒๔๘๐ แล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๔ อาคารดังกล่าว เป็นสถาปัตยกรรมแบบอลังการศิลป์ (Art Deco) ภายหลังจากศาลจังหวัดสงขลาย้ายที่ทำการ
ไปยัง อาคารแห่งใหม่ในปี ๒๕๓๑ แล้ว ศาลแขวงสงขลายังคงใช้อาคารดังกล่าวเป็นอาคารที่ทำการเรื่อยมา

ในปี ๒๕๖๑ ศาลแขวงสงขลาจัดสรรงบประมาณก่อสร้างอาคารที่ทำการแห่งใหม่
ตั้งอยู่ ณ เลขที่ ๑/๒ ถนนชลาทัศน์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เปิดทำการที่อาคารที่ทำการใหม่ เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๔ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน อาคารดังกล่าวเป็นอาคาร
หลังใหม่สูง ๔ ชั้น ขนาด ๑๐ บัลลังก์ ครบครัน ด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ทันสมัย มีความเหมาะสม
ที่จะใช้เป็นสถานที่ประสิทธิ์ประสาทความยุติธรรม ให้แก่ประชาชนได้เป็นอย่างดี สมแก่เกียรติศักดิ์
แห่งสถาบันศาลยุติธรรม ซึ่งใช้อำนาจตุลาการ ภายใต้พระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ทุกประการ

สำหรับเขตอำนาจศาลแขวงสงขลา มีเขตอำนาจครอบคลุม 11 อำเภอในจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย ๑. อำเภอเมืองสงขลา ๒. อำเภอกระแสสินธุ์ ๓. อำเภอคลองหอยโข่ง ๔. อำเภอควนเนียง ๕. อำเภอนาหม่อม ๖. อำเภอบางกล่ำ ๗. อำเภอระโนด 8. อำเภอรัตภูมิ 9. อำเภอสทิงพระ
๑๐. อำเภอสิงหนคร และ ๑๑. อำเภอหาดใหญ่ มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญา ซึ่งกฎหมาย
กำหนดโทษอย่างสูงจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และคดีแพ่ง
ซึ่งราคาทรัพย์สินข้อพิพาทหรือจำนวนเงินที่ฟ้องไม่เกิน 300,000 บาท